ผักกาดเขียวปลี

ผักกาดเขียวปลี leaf mustard

ชื่อวิทยาศาสตร์ Brassica juncea(L.) Czern.

วงศ์ CRUCIFERAE, BRASSICACEAE

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

เป็นพืชปีเดียว และสองปีไม่มีเนื้อไม้ ลำต้นตั้งตรง สูง 30-60 เซนติเมตร ไม่มีการแตกกิ่งก้านสาขา ลำต้นค่อนข้างเรียบ มีนวลจับ ระบบรากเป็นแบบรากแก้ว ใบมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไป ขอบใบเรียบหรือหยักเว้าแบบขนนก มีก้านใบ ใบสีเขียวอ่อนจนถึงสีเขียวเข้ม อาจมีขนหรือไม่มีขน มีการห่อของปลีหรือไม่มีขึ้นกับพันธุ์ ช่อดอกแบบช่อเชิงหลั่น ดอกย่อยบานจากด้านล่างขึ้นไปยังด้านบน มีดอกย่อยจำนวนมาก ช่อดอกยาวได้ถึง 60 เซนติเมตร ดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ก้านดอกย่อยยาว 5-12 มิลลิเมตร กลีบเลี้ยงมี 4 กลีบ รูปขอบขนาน ยาว 4-6 มิลลิเมตร สีเขียว กลีบดอกสีเหลืองสดมี 4 กลีบ มีลักษณะโค้ง รูปไข่กลับ ยาว 6-10 มิลลิเมตร มีเกสรเพศผู้ 6 อัน ยาวสี่อันสั้นสองอัน เกสรเพศเมียมีลักษณะกลม ผลแตกแบบผักกาด ยาว 25-75 มิลลิเมตร กว้าง 2-3.5 มิลลิเมตร ผลยาวตรง มีลักษณะพองและมีรอยคอด ปลายสอบเรียวหรืออาจเป็นจะงอยรูปกรวย ผลแตกเมื่อแก่จัด มี 10-20 เมล็ด เมล็ดกลมสีน้ำตาลจนถึงสีเทาดำ เส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 มิลลิเมตร มีรอยร่างแหละเอียดบนเปลือกเมล็ด

คุณค่าทางโภชนาการ

ส่วนที่รับประทานได้หนัก 100 กรัม ประกอบด้วยน้ำ 92 กรัม โปรตีน 2.4 กรัม ไขมัน 0.4 กรัม คาร์โบไฮเดรต 4 กรัม แคลเซียม 160 มิลลิกรัม เหล็ก 2.7 มิลลิกรัม วิตามินเอ 1.8 มิลลิกรัม วิตามินซี 73 มิลลิกรัม เมล็ดหนักประมาณ 2 กรัมต่อ 1,000 เมล็ด

 

เมนูเด็ด

การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา

1.เบต้าแคโรทีนปริมาณสูงในผักกาดเขียว จะเปลี่ยนเป็นวิตามินA ให้แก่ร่างกายเมื่อกินเข้าไปเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงสายตาให้มีประกายที่สดใส สุขภาพดี ป้องกันโรคทางสายตา เช่น ตาฟาง (Blurred vision) ตาบอดกลางคืน (Night blindness) หรือโรคความเสื่อมของดวงตา ต้อตาชนิดต่างๆ ในผู้สูงอายุได้ ช่วยบำรุงหลอดเลือดและหัวใจ และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านการเกิดโรคมะเร็งได้ และนอกจากจะบำรุงสายตายังบำรุงให้ผิวชุ่มชื่น ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอีกด้วย

  1. 2. มีแคลเซียม ดีต่อระบบกระดูกและฟันของร่างกาย ช่วยป้องกันโรคไขข้อ ป้องกันโรคกระดูกพรุน
  2. 3. มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า glucosinolates ที่มีคุณสมบัติป้องกันมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพและความสามารถดีท็อกซ์เซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะภายในร่างกาย จึงลดการสะสมของสารอนุมูลอิสระที่ทำร้ายร่างกาย
  3. 4. วิตามินซี ที่ดีต่อร่างกายมากๆ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญ ป้องกันไวรัสและแก้อักเสบ จึงช่วยป้องกันหวัดและช่วยให้หวัดหายเร็วขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้เหงือกแข็งแรง ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน และบำรุงผิวให้แข็งแรง ผิวสวยสดใส เส้นใยอาหารที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ การย่อยอาหาร ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของอวัยวะดังกล่าวทำให้ระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ ส่งเสริมให้สุขภาพดีตามไปด้วย
  4. 5. กรดโฟลิค ดีต่อระบบเลือดและหลอดเลือด ช่วยบำรุงเลือด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์ดีเอ็นเอในระหว่างการตั้งครรภ์
  5. 6. เมล็ดของผักกาดเขียวมีสรรพคุณเป็นยา มีกลิ่นฉุน ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร รักษาโรคหวัด ตลอดจนช่วยย่อยอาหารทำให้ท้องไม่อืด หรือแน่นเฟ้ออีกด้วย และน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดผักกาดเขียวยังช่วยแก้ปวดและแก้แพ้อากาศ หรือบรรเทาอาการคันได้ดีอีกชนิดหนึ่งด้วย
  6. 7. ผักกาดเขียวที่ต้นโตเต็มวัย จะมีรสชาติเผ็ดร้อน กลิ่นฉุนอย่างแรง มีสรรพคุณช่วยในเรื่องของการย่อยอาหารได้ดีอีกด้วย
  7. 8. สรรพคุณอีกอย่างหนึ่งก็คือแก้หวัด แก้ไอ ขับเสมหะ และยังช่วยให้มีความจำดีขึ้น

 

ที่มา : https://kaijeaw.com

https://www.baanjomyut.com/library_2/extension-2/vegetables/17.html