ชื่อไทย                         มะม่วง

ชื่อท้องถิ่น                 ตะเคาะซะ (กะเหรี่ยงเชียงใหม่) / จ๋องบั่วะ (ม้ง)

ชื่อวิทยาศาสตร์          Mangifera indica L.

ชื่อวงศ์                         ANACARDIACEAE

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ลักษณะทั่วไป เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขาออกไปรอบต้นมากมายจนดูหนาทึบ เปลือกของต้นจะมีสีน้ำตาลมดำ พื้นผิวเปลือกขรุขระ เป็นร่องไปตามแนวยาวขงลำต้น

ลักษณะใบ ลักษณะของใบเป็นรูปหอก มีสีเขียวเข้ม เป็นไม้ใบเดี่ยวจะออกเรียงกันเป็นคู่ๆ ไปตามก้านใบ ขอบใบเรียบไม่มีหยัก ปลายใบแหลม ส่วนโคนใบมน เนื้อใบค่อนข้างจะหนา

ลักษณะดอก ดอกออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งมีประมาณ 15-20 ดอก ลักษณะของดอกเป็นสีเหลืองอ่อน หรือสีนวลๆ เป็นดอกที่มีขนาดเล็ก

ลักษณะผล เมื่อดอกโรยก็จะติดผล มีลักษณะต่างกันแล้วแต่ละพันธุ์เช่นบางทีมีเป็นรูปมนรี ยาวรี หรือเป็นรูปกลมป้อม ผลอ่อนมีเป็นสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกเต็มที่ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด ภายในผลมีเมล็ด ผลหนึ่งมีเมล็ดเดียว

ระยะการออกดอกติดผล

ออกดอกเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ ติดผลหลังออกดอก

เขตการกระจายพันธุ์  

มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บอเนียวนิวกีนี หมู่เกาะโซโลมอน และเกาะแคโลไล

การใช้ประโยชน์        

ผล :  รับประทานได้

เปลือกลำต้น : ใช้เปลือกลำต้นสด นำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้ไข้ แก้โรคคอตีบ แก้เยื่อปากอักเสบ เยื่อเมือกในจมูกอักเสบหรือใช้สวนล้างช่องคลอดแก้อาการตกขาว

ใบ : ใช้ใบสดประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้ลำไส้อักเสบเรื้อรัง แก้ซางตานขโมยในเด็ก แก้อืดแน่น หรือใช้ใบสดบดให้ละเอียดพอกบริเวณแผลสดหรือใช้ล้างบาดแผล

ผล : ใช้ผลสด นำมากินเป็นยาแก้คลื่นไส้ อาเจียนวิงเวียน แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน ขับปัสสาวะ เป็นยาระบาย แก้อาการปวดเมื่อยเมื่อมีประจำเดือน แก้บิดถ่ายเป็นเลือดและใช้เป็นยาบำรุงกระเพาะอาหาร

เมล็ด : ใช้เมล็ดสดประมาณ 2-3 เม็ด นำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาถ่ายพยาธิตัวกลม แก้ท้องร่วง แก้บิดเรื้อรัง ริดสีดวงทวาร ตกขาว ตกเลือด ท้องอืด แก้คลื่นไส้ และแก้ไอ

แหล่งข้อมูล : อุทยานหลวงราชพฤกษ์