การเรียนรู้นอกห้องเรียน (Outdoor Learning) เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่พาผู้เรียนไปยังสถานที่จริงนอกห้องเรียนเพื่อสัมผัสประสบการณ์โดยตรง ซึ่งสามารถเสริมสร้างความเข้าใจและทักษะในหลายด้าน นี่คือประโยชน์สำคัญของการเรียนรู้นอกห้องเรียน พร้อมการอ้างอิงจากงานวิจัยที่สนับสนุน:

1. การเสริมสร้างความเข้าใจและความจำในระยะยาว

การเรียนรู้นอกห้องเรียนช่วยให้ผู้เรียนได้สัมผัสกับประสบการณ์ตรง ซึ่งส่งผลให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งและการจดจำในระยะยาวได้ดีขึ้น งานวิจัยของ Behrendt และ Franklin (2014) พบว่า ผู้เรียนที่ได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงนอกห้องเรียนมีความสามารถในการเชื่อมโยงเนื้อหากับสภาพแวดล้อมจริงได้ดี และมีความเข้าใจในเนื้อหาวิชาที่มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการเรียนรู้ในห้องเรียน

2. การพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา

การเรียนรู้นอกห้องเรียนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนและต้องการการแก้ปัญหาในชีวิตจริง ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการคิดเชิงวิพากษ์ งานวิจัยของ Orion และ Hofstein (1994) ชี้ให้เห็นว่า ผู้เรียนที่ได้ทำกิจกรรมการเรียนรู้นอกสถานที่ เช่น การศึกษาภาคสนามในธรรมชาติ มีทักษะการตั้งคำถามและการวิเคราะห์ปัญหาที่ดีกว่า

3. การเสริมสร้างสุขภาพจิตและลดความเครียด

การพาผู้เรียนออกไปสู่ธรรมชาติหรือสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่ห้องเรียนช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตของผู้เรียนได้อย่างมีนัยสำคัญ งานวิจัยจาก University of Exeter (2019) พบว่า การใช้เวลาในธรรมชาติเป็นเวลาอย่างน้อย 120 นาทีต่อสัปดาห์สามารถช่วยลดระดับความเครียดและเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เรียนได้

4. การพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมและความสัมพันธ์ทางสังคม

การเรียนรู้นอกห้องเรียนมักเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างผู้เรียน ซึ่งช่วยเสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นทีมและความสามารถในการสื่อสาร งานวิจัยของ Rickinson et al. (2004) พบว่า การเรียนรู้นอกห้องเรียนช่วยให้ผู้เรียนมีทักษะทางสังคมที่ดีขึ้น เนื่องจากมีโอกาสในการสื่อสารและทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหาและการสำรวจสิ่งแวดล้อม

5. การเพิ่มแรงจูงใจและความสนใจในการเรียนรู้

การเรียนรู้นอกห้องเรียนช่วยกระตุ้นแรงจูงใจและความสนใจของผู้เรียน เนื่องจากผู้เรียนมีโอกาสสำรวจและค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ด้วยตนเอง งานวิจัยของ Farmer, Knapp, และ Benton (2007) พบว่า การทัศนศึกษานอกห้องเรียนช่วยเพิ่มความสนใจและความกระตือรือร้นของผู้เรียนในการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ

การเรียนรู้นอกห้องเรียนเป็นวิธีการที่ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะทางความคิด สุขภาพจิต และทักษะทางสังคม การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สัมผัสกับประสบการณ์ตรงช่วยเพิ่มความสนใจในการเรียนรู้และความเข้าใจในเนื้อหาที่ลึกซึ้งมากขึ้น จะเห็นว่ามีงานวิจัยที่น่าสนใจหลายงานที่อ้างถึงข้างต้นยืนยันถึงประโยชน์ของการเรียนรู้นอกห้องเรียนได้อย่างชัดเจน ผู้ที่มีบทบาทที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้จึงควรพิจารณาให้รอบด้านเกี่ยวกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ครอบคลุมทั้งรูปแบบ ความเหมาะสม รวมถึงความปลอดภัย เพื่อให้ผ้เรียนรู้ได้รับประโยชน์สูงสุดตามที่ควรจะเป็น


อ้างอิง

  1. Behrendt, M., & Franklin, T. (2014). A review of research on school field trips and their value in education. International Journal of Environmental and Science Education, 9(3), 235-245. https://doi.org/10.12973/ijese.2014.213a
  2. Orion, N., & Hofstein, A. (1994). Factors that influence learning during a scientific field trip in a natural environment. Journal of Research in Science Teaching, 31(10), 1097-1119. https://doi.org/10.1002/tea.3660311005
  3. White, M. P., Alcock, I., Grellier, J., Wheeler, B. W., Hartig, T., Warber, S. L., Bone, A., Depledge, M. H., & Fleming, L. E. (2019). Spending at least 120 minutes a week in nature is associated with good health and wellbeing. Scientific Reports, 9(1), 1-11. https://doi.org/10.1038/s41598-019-44097-3
  4. Rickinson, M., Dillon, J., Teamey, K., Morris, M., Choi, M. Y., Sanders, D., & Benefield, P. (2004). A review of research on outdoor learning. Field Studies Council. https://www.field-studies-council.org/media/268756/2004_a_review_of_research_on_outdoor_learning.pdf
  5. Farmer, J., Knapp, D., & Benton, G. M. (2007). An elementary school environmental education field trip: Long-term effects on ecological and environmental knowledge and attitude development. The Journal of Environmental Education, 38(3), 33-42. https://doi.org/10.3200/JOEE.38.3.33-42