การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมทั่วโลก หนึ่งในผลกระทบสำคัญที่หายคนยังมีข้อสงสัย คือ ความถี่และความรุนแรงของพายุที่เพิ่มขึ้นมีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อนอย่างไร วันนี้เราจะมาเรียนรู้ถึงกลไกและสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

1. อุณหภูมิที่สูงขึ้นและพลังงานในมหาสมุทร

น้ำทะเลมีบทบาทสำคัญในการก่อตัวและขับเคลื่อนพายุหมุนเขตร้อน เมื่ออุณหภูมิของผิวมหาสมุทรเพิ่มขึ้นจากภาวะโลกร้อน การระเหยของน้ำทะเลก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศมีความชื้นมากขึ้น ความชื้นนี้ถูกเก็บไว้ในบรรยากาศจนกว่ากระแสลมและอากาศร้อนจะก่อให้เกิดพายุ เมื่อพายุเริ่มก่อตัว พลังงานที่ได้จากการควบแน่นของไอน้ำในอากาศชุ่มชื้นทำให้พายุหมุนเขตร้อนรุนแรงขึ้น

พายุหมุนเหล่านี้ต้องการน้ำทะเลที่อุณหภูมิต่ำกว่ากว่า 26°C เพื่อที่จะก่อตัวและพัฒนา อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้น้ำทะเลร้อนมากขึ้น ส่งผลให้พายุมีพลังงานมากขึ้นและมีความรุนแรงเมื่อเคลื่อนผ่านพื้นมหาสมุทร

อุณหภูมิของน้ำทะเลที่สูงขึ้นนี้ยังทำให้พายุสามารถเก็บกักพลังงานได้นานกว่าเมื่อขึ้นฝั่ง ส่งผลให้พายุสามารถรักษาความรุนแรงไว้ได้นานขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความเสียหายที่มากขึ้นในพื้นที่แผ่นดินใหญ่

2. การเกิดพายุรุนแรงบ่อยขึ้นในบางภูมิภาค

งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าภูมิภาคที่เกิดพายุบ่อยๆ เช่น มหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก กำลังเผชิญกับพายุที่มีความรุนแรงระดับสูงบ่อยขึ้น จากการศึกษาของ Kossin et al. (2020) ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature พบว่า ตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา พายุที่รุนแรงระดับสูง (เช่น Category 4 หรือ Category 5) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้ พายุหมุนที่รุนแรงยังเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่นในแถบมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมักไม่เคยพบพายุรุนแรงบ่อยนัก

ในประเทศไทย แม้พายุหมุนเขตร้อนอาจไม่เกิดขึ้นบ่อยเหมือนในประเทศแถบตะวันตกหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร แต่ประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจากพายุเหล่านี้ในรูปแบบของฝนตกหนักและน้ำท่วม นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศยังส่งผลให้เกิดพายุฝนที่ไม่ปกติในหลายพื้นที่ของประเทศ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อการเกษตรและเศรษฐกิจในท้องถิ่น

3. การเพิ่มขึ้นของความรุนแรงในการทำลายล้าง

พายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวขึ้นภายใต้สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงนั้นไม่เพียงแต่มีความถี่ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีความรุนแรงมากขึ้นด้วย ความรุนแรงนี้สามารถวัดได้จากลมพายุที่แรงขึ้น ปริมาณน้ำฝนที่มากขึ้น และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นเมื่อพายุเคลื่อนเข้าฝั่ง ตัวอย่างเช่น พายุไต้ฝุ่น Haiyan ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปี 2013 เป็นตัวอย่างหนึ่งของพายุหมุนเขตร้อนที่เกิดขึ้นภายใต้สภาวะโลกร้อน และสร้างความเสียหายอย่างมาก

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences (PNAS) ระบุว่า พายุหมุนในมหาสมุทรแอตแลนติกมีแนวโน้มที่จะรักษาความรุนแรงไว้นานขึ้นเมื่อเคลื่อนเข้าฝั่ง ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นต่อพื้นที่ชายฝั่งเท่านั้น แต่ยังขยายผลกระทบต่อพื้นที่ที่ห่างจากชายฝั่งด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยพบในพายุรุ่นก่อนๆ

4. ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

ความถี่และความรุนแรงของพายุที่เพิ่มขึ้นนำไปสู่ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจในหลายระดับ ในพื้นที่ชายฝั่งและเกาะที่เสี่ยงต่อพายุเหล่านี้ การสูญเสียทางเศรษฐกิจสามารถเกิดจากการทำลายโครงสร้างพื้นฐาน การสูญเสียทรัพย์สิน และการหยุดชะงักของการเกษตร นอกจากนี้ ภาคการประมงและการท่องเที่ยวซึ่งพึ่งพิงสภาพอากาศที่คงที่และปลอดภัยก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรงขึ้น อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและการที่พายุทำให้เกิดคลื่นสูง นอกจากนี้ การสูญเสียพื้นที่ป่าชายเลนและป่าชายฝั่งยังทำให้ความสามารถในการป้องกันน้ำท่วมและการกักเก็บคาร์บอนลดลง ซึ่งเพิ่มผลกระทบต่อระบบนิเวศในระยะยาว

5. มาตรการเตรียมความพร้อมและการปรับตัว

การเตรียมความพร้อมและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในประเทศที่เผชิญกับพายุบ่อยครั้งและได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับปรุงระบบเตือนภัย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถต้านทานพายุ และการสร้างความตระหนักรู้ในชุมชนเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการเพื่อป้องกันการสูญเสีย

        การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากภาวะโลกร้อนไม่เพียงแต่ส่งผลให้พายุหมุนเขตร้อนมีความถี่และความรุนแรงเพิ่มขึ้น แต่ยังทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง ดังนั้น การเตรียมความพร้อมและการวางแผนปรับตัวจะเป็นกุญแจสำคัญในการลดผลกระทบในอนาคต

อ้างอิง

  1. Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC). (2021). Climate Change 2021: The Physical Science Basis. Cambridge University Press.
  2. Bhatia, K., Vecchi, G. A., Knutson, T. R., et al. (2020). Recent increases in tropical cyclone intensification rates. Nature Communications, 11(1), 1-8.
  3. Emanuel, K. (2022). The increasing intensity of the strongest tropical cyclones. Proceedings of the National Academy of Sciences (PNAS), 119(24), e2207634119.
  4. สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.). (2564). รายงานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบในประเทศไทย.