เทศกาลลอยกระทงเป็นประเพณีสำคัญของประเทศไทยที่ผู้คนทั่วประเทศมีส่วนร่วมในการลอยกระทงเพื่อขอขมาและขอบคุณสายน้ำ อย่างไรก็ตาม กระทงที่ถูกลอยจำนวนมากทำให้เกิดปัญหาขยะสะสมในแหล่งน้ำ และมีผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างมาก ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันของขยะกระทง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และแนวทางแก้ไขที่สามารถลดปริมาณขยะกระทงเพื่อรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ
สถานการณ์ปัจจุบันของขยะกระทงในประเทศไทย
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ข้อมูลจากสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร แสดงให้เห็นถึงปริมาณขยะกระทงในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่มีแนวโน้มลดลงตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2565 จาก 982,064 ใบในปี 2557 เหลือเพียง 572,602 ใบในปี 2565 โดยมีการลดลงอย่างมากในปี 2562 ซึ่งเป็นผลจากการรณรงค์ใช้กระทงที่ย่อยสลายได้และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชน อย่างไรก็ตาม ปัญหาขยะกระทงยังคงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการและกำจัดขยะให้มีประสิทธิภาพ
ปัญหาที่เกิดจากขยะกระทง
- ผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ: กระทงที่ทำจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ยาก เช่น โฟมและพลาสติก สามารถคงค้างในแหล่งน้ำได้เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไป โฟมและพลาสติกเหล่านี้จะแตกตัวกลายเป็นไมโครพลาสติก ซึ่งสามารถปนเปื้อนในระบบน้ำและเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ หากมีการสะสมอย่างต่อเนื่องอาจนำไปสู่โรคมะเร็งได้
- ผลกระทบต่อสัตว์น้ำ: ขยะกระทงที่ไม่ได้รับการจัดเก็บอย่างเหมาะสมอาจตกลงสู่แม่น้ำและทะเล ทำให้สัตว์น้ำบางชนิดรับประทานเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้เกิดการสะสมสารพิษในร่างกายและอาจนำไปสู่การตายของสัตว์น้ำ นอกจากนี้ วัสดุที่เป็นอันตราย เช่น ลวด หมุด หรือเข็มหมุด ที่ใช้ในการประกอบกระทง อาจทำให้สัตว์น้ำได้รับบาดเจ็บหรือติดอยู่กับขยะ
- ผลกระทบต่อระบบนิเวศ: การสะสมของขยะในแหล่งน้ำทำให้ความสมดุลของระบบนิเวศเสื่อมโทรม ส่งผลให้แหล่งน้ำที่เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตมีคุณภาพลดลง ความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำจึงลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ ปริมาณขยะที่สะสมอาจทำให้แหล่งน้ำเสื่อมคุณภาพและสูญเสียความสวยงามทางธรรมชาติ
แนวทางการแก้ไขและลดปริมาณขยะกระทง
- เลือกกระทงจากวัสดุธรรมชาติ
ใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เช่น ใบตอง เปลือกข้าวโพด ก้านกล้วย และดอกไม้สด หลีกเลี่ยงกระทงจากโฟมและพลาสติก เพราะวัสดุเหล่านี้ย่อยสลายยากและสร้างขยะในแหล่งน้ำ - ใช้กระทงขนมปังหรือกระทงผลไม้
กระทงขนมปังหรือผลไม้สามารถเป็นอาหารให้กับปลาและสัตว์น้ำหลังจากเทศกาลลอยกระทง นอกจากจะลดขยะแล้ว ยังช่วยสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศทางน้ำ - ลอยกระทงร่วมกัน
ลอยกระทงร่วมกันเป็นกลุ่มหรือครอบครัวเพื่อช่วยลดจำนวนกระทงที่ลงสู่แหล่งน้ำ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะและลดการใช้ทรัพยากรในการผลิตกระทง - หลีกเลี่ยงการใช้ลวดและหมุดโลหะ
ในการตกแต่งกระทง ควรหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่ย่อยสลายยาก เช่น ลวด โลหะ หรือหมุด โดยใช้ด้ายหรือเส้นใยธรรมชาติในการประกอบกระทงแทน เพื่อให้กระทงย่อยสลายได้เร็วขึ้นในธรรมชาติ - เลือกสถานที่ลอยที่จัดการขยะได้
เลือกสถานที่ที่มีการจัดการขยะอย่างเหมาะสม เช่น สถานที่ที่มีการจัดเก็บและคัดแยกขยะหลังเทศกาล เพื่อให้มั่นใจว่าขยะจะถูกกำจัดอย่างถูกวิธีและไม่สร้างมลพิษในแหล่งน้ำ - ลอยกระทงออนไลน์
ปัจจุบันมีการจัดเทศกาลลอยกระทงในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยสามารถส่งคำอธิษฐานและความตั้งใจผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่จัดทำขึ้น - กระทงเล็กแต่มีคุณค่า
การลอยกระทงขนาดเล็กช่วยลดปริมาณวัสดุที่ต้องใช้และลดขยะในแหล่งน้ำ และยังคงรักษาความหมายและคุณค่าของการขอขมาแม่น้ำได้เช่นกัน
เทศกาลลอยกระทงเป็นประเพณีที่ควรสืบสานและอนุรักษ์ อย่างไรก็ตาม เราควรคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยกันร่วมมือหาทางออกเพื่อรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดจำนวนกระทง และการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นแนวทางที่ช่วยลดผลกระทบจากขยะกระทงได้อย่างยั่งยืน เพื่อให้เทศกาลลอยกระทงในอนาคตสามารถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และยังคงคุณค่าทางวัฒนธรรมได้อย่างสมบูรณ์
อ้างอิง
- สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (https://www.thaipbs.or.th/news/infographic/988)
- Bangkokbiznews. “ผลกระทบจากขยะกระทง.” (https://www.bangkokbiznews.com/environment/1100553)
- Thai Health Promotion Foundation. “5 วิธีลดปริมาณขยะหลังคืนลอยกระทง.” (https://www.thaihealth.or.th/5-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99/