ชื่อไทย                     ปอสา (Paper mulberry)

ชื่อท้องถิ่น                ฉำฉา ชำสา (นครสวรรค์), ปอกะสา (ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ), หมอมี หมูพี (ภาคกลาง), ปอฝ้าย (ภาคใต้)

ชื่อวิทยาศาสตร์        Broussonetia papyrifera (L.)Vent.

ชื่อวงศ์                    MORACEAE

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ลักษณะทั่วไป ไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีความสูงได้ประมาณ 6-10 เมตร แตกกิ่งก้านโปร่งกว้าง กิ่งเปราะหักง่าย เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลอ่อนเรียบบางเป็นเส้นใย ตามกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีขาว เมื่อกรีดลำต้นจะมีน้ำยางสีขาวไหลออกมา

ลักษณะใบ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปรีกว้างหรือรูปไข่กว้าง ปลายใบแหลม โคนใบมนเว้าเล็กน้อยหรือเว้าลึกคล้ายรูปหัวใจ ส่วนขอบใบจักเป็นซี่ฟันตลอดทั้งขอบใบ มีแตกเป็น 3-5 แฉกบ้าง ใบมีขนาดกว้างประมาณ 5-15 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-20 เซนติเมตร แผ่นใบบางนิ่ม หลังใบเรียบเป็นสีเขียวแก่สากระคายมือ ส่วนท้องใบเป็นสีเขียวอ่อนออกเทามีขนหนานุ่มขึ้นปกคลุม ก้านใบยาวประมาณ 3-10 เซนติเมตร และมีขน (ปอกระสาจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ติด ชนิดใบหยัก (3-4 แฉก) และชนิดใบมน แต่โดยปกติแล้วทั้ง 2 ชนิดจะแยกต้นกันอยู่ แต่มีบ้างที่พบว่าใบมีทั้ง 2 ลักษณะในต้นเดียวกัน แต่จากการสังเกตจะพบว่าใบปอกระสาที่มีอายุมากขึ้นจะมีใบมนมากกว่าใบหยัก

ลักษณะดอก ดอกเป็นแบบแยกเพศกันอยู่คนละต้น ช่อดอกเพศผู้จะออกเป็นช่อห้อยลงมา ยาวประมาณ 6-8 เซนติเมตร มีดอกย่อยจำนวนมากเรียงตัวอัดกันหนาแน่น โดยจะออกตามปลายกิ่งหรือออกตามซอกใบ กลีบดอกเป็นสีขาว กลีบรองดอกเป็นกาบ มี 4 กลีบ ส่วนช่อดอกเพศเมียจะออกเป็นช่อกลม มีดอกย่อยจำนวนมาก โดยจะออกตามซอกใบ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.2-1.8 เซนติเมตร ดอกย่อยเป็นสีเขียวอัดกันแน่นเป็นรูปทรงกลม กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกัน ก้านเกสรเป็นเส้นฝอยยาวสีม่วง และมีหลอดรังไข่อยู่กลางดอก

ลักษณะผล ผลเป็นผลรวม ออกตามบริเวณซอกใบ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมสีส้มอมแดง ฉ่ำน้ำ มีเนื้อผลมาก เนื้อนิ่ม ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดขนาดเล็กอยู่บนก้านยาว เมล็ดมีลักษณะแบน

ระยะการออกดอกติดผล

ออกดอกในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม

ออกผลในช่วงประมาณเดือนเมษายน

เขตการกระจายพันธุ์

เป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและญี่ปุ่น ทางตอนเหนือของประเทศพม่าและไทย ชอบขึ้นในบริเวณที่มีความชุ่มชื้น ตามริมน้ำและที่ชื้น ในป่าที่ค่อนข้างโปร่ง ในประเทศไทยพบได้ทั่วไปทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ความสูงประมาณ 50-800 เมตร จากระดับน้ำทะเล

การใช้ประโยชน์

เปลือกใช้ทำเยื่อกระดาษสา ในอุตสาหกรรมทำกระดาษสา เนื้อไม้ใช้ทำตะเกียบ และไม้จิ้มฟัน

ผลสุกหรือเมล็ดใช้เป็นอาหารของนกและกระรอก

ใช้เป็นแหล่งสีธรรมชาติ โดยการนำใบมาสกัดจะได้สีเหลือง

แหล่งข้อมูล : https://www.camelliaoilcenter.com

                   https://medthai.com/ปอกะสา/

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *