เครื่องใช้ไฟฟ้า
การสูญเสียพลังงานมักเกิดจากการที่ผู้ใช้มีพฤติกรรมการใช้ที่ ไม่เหมาะสม หรือมีการใช้พลังงานที่ขัดแย้งกัน เนื่องมาจากการละเลยไม่เอาใจใส่ในวิธีการใช้ที่ถูกต้องหรือจากความไม่รู้และไม่รอบคอบรวมทั้งจากการเลือกใช้ เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพพลังงานต่ำ สิ่งสำคัญเริ่มต้นตั้งแต่การเลือกซื้อซึ่งมีหลักการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าดังนี้
หลักการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า
- จำนวนวัตต์ของเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนใหญ่ดูจากแผ่นป้ายติดตัวเครื่องและเป็นข้อมูลที่บ่งบอกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นกินไฟมากน้อยเพียงใด ถ้าทราบอัตราค่ากระแสไฟฟ้าต่อหน่วยและทราบระยะเวลาที่มีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้นก็สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้
- ความปลอดภัย หากเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีความปลอดภัย อาจเกิดอันตรายได้
- ราคาการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาถูกบางครั้งก็ไม่เป็นการประหยัดเพราะอาจได้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุณภาพ ต่ำหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากทางที่ดีควรปรึกษาผู้รู้ก่อนซื้อหรือเปรียบเทียบคุณภาพสินค้าก่อนตัดสินใจ ซื้อ
- ขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้จะช่วยในการประหยัดพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่โดยไม่จำเป็น
- ชนิดของเครื่องใช้ไฟฟ้า เลือกชนิดของเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะกับการใช้งานหรือลักษณะของพื้นที่ติดตั้ง
- ค่าติดตั้งและการบำรุงรักษา หากซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาแล้วต้องมีการดัดแปลงบางส่วนของบ้านใหม่ ค่าติดตั้งก็จะสูงมากการซ่อมแซมอะไหล่ค่าบำรุงรักษาและวิธีการควรสอบถามจากผู้ที่เคยใช้มาก่อนแล้วค่อยเลือกซื้อชนิดที่ค่าซ่อมถูก อะไหล่หาง่ายและบำรุงรักษาไม่ยุ่งยาก
สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก คู่มือการเลือกซื้อและใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
สาเหตุการสูญเสียพลังงาน
การสูญเสียพลังงานมักเกิดจากการที่ผู้ใช้มีพฤติกรรมการใช้ที่ไม่เหมาะสม หรือมีการใช้พลังงาน ที่ขัดแย้งกัน เนื่องมาจากการละเลยไม่เอาใจใส่ในวิธีการใช้ที่ถูกต้องหรือจากความไม่รู้และไม่รอบคอบรวมทั้งจากการเลือกใช้เทคโน โลยีที่มีประสิทธิภาพพลังงานต่ำ
ตัวอย่างพฤติกรรมการใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสม
- การเปิดโทรทัศน์และวิทยุเสียงดังเกินความจำเป็น
- การสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศ ทำให้ต้องใช้พัดลมดูดอากาศ
- การเป่าผมขณะที่เปียก
- การเปิดหลอดแสงสว่างทิ้งไว้ โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์
- การเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่น เปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้ขณะที่ไม่ได้อยู่ในห้อง
- การเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยครั้ง
- การเปิดตู้เย็นทิ้งไว้
- การสวมเสื้อผ้าหนาในช่วงเวลาที่มีอากาศร้อน
- การต้มน้ำเดือดทิ้งไว้โดยไม่สนใจ
- การดูดฝุ่นจากกองผงที่รวบรวมไว้
- การซักผ้าทีละน้อยในเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่
- การปรุงอาหารแช่แข็ง
ตัวอย่างการสูญเสียพลังงานจากความไม่รู้หรือไม่รอบคอบของผู้ใช้
- การติดตั้งเครื่องปรับอากาศโดยไม่มีการป้องกันการรั่วไหลของอากาศเย็นออกจากห้องเช่น การติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องที่มีหน้าต่างเป็นแบบบานเกร็ด
- การติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องที่ไม่มีการบุฉนวนอย่างเหมาะสม
- การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในตำแหน่งที่ปิดกั้นทางลมและแสงสว่าง
- การสร้างสิ่งปลูกสร้างปิดบังช่องแสงและทางลม
- การติดตั้งเครื่องสูบน้ำในลักษณะที่ทำให้เครื่องสูบน้ำต้องทำงานบ่อยครั้ง
- การติดตั้งตู้เย็นในตำแหน่งที่มีความร้อน เช่น ใกล้เตาหุงต้มอาการ หรือบริเวณที่มีแสงแดด
- การติดตั้งตู้เย็นประกอบเฟอร์นิเจอร์ ทำให้มีการระบายความร้อนได้ยาก
- การปล่อยให้มีการรั่วไหลของน้ำอย่างต่อเนื่อง
- การติดตั้งสวิทช์ให้มีการควบคุมหลอดแสงสว่างหลายจุด
- การติดตั้งสวิทช์ไฟหลายสวิทช์ไว้ด้วยกัน โดยไม่มีการแยกแยะการควบคุมอย่างชัดเจน
- การขาดการบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเหมาะสม
- การติดตั้งอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในที่ที่มีการบำรุงรักษาได้ยาก
ตัวอย่างการสูญเสียพลังงานจากการเลือกใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพพลังงานต่ำ
- การใช้หลอดไส้ในการให้แสงสว่าง
- ก ารใช้ตู้แช่ที่มีการสูญเสียความเย็น
- การใช้เครื่องเป่าผมที่มีกำลังไฟฟ้ามาก
- การติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น
- การเลือกใช้หลังคาที่สวยงามแต่มีการกักเก็บความร้อนสูง
- การใช้เตาหุงต้มที่ไม่มีประสิทธิภาพ
- การใช้ตู้แช่น้ำเย็นประสิทธิภาพต่ำ