เพราะชีวิต คือ การเดินทางและในความเป็นมนุษย์อย่างเรายังต้องการการท่องเที่ยวไปในโลกกว้างเพื่อพักผ่อนและเปิดโลกกว้างให้ได้เห็นอะไรอีกมากมาย ถึงแม้ว่าวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาดจะทำให้การท่องเที่ยวซบเซาลงไปบ้าง แต่หัวใจของนักท่องเที่ยวยังคงเรียกร้องและโหยหาถึงเวลาแห่งการปล่อยหัวใจให้โบยบินออกท่องเที่ยวเพื่อเติมเต็มในการใช้ชีวิตอยู่เสมอ ในฐานะนักท่องเที่ยวเอง เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปย่อมจะต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยเพื่อให้การท่องเที่ยวยังคงความสุขกับการดื่มด่ำกับการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ แต่ยังคงปลอดภัยจากการระบาดของโควิด-19 และที่สำคัญ คือ มีส่วนช่วยในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนยาวนานอีกด้วย วันนี้เรามีแนวคิดของการปรับตัวของนักท่องเที่ยวยุค New normal ในแบบ Eco tour มาฝาก

นักท่องเที่ยวยุค New normal ปรับตัวอย่างไรให้ปลอดภัยจากโควิด-19

จากบทสรุปรายงานของ Krungthai Compass แนวโน้มของการท่องเที่ยวยุค New normal จะเป็นไปในลักษณะดังนี้ คือ

  1. เลือกท่องเที่ยวในประเทศก่อนเพราะลดความเสี่ยงต่อการติดโรคโควิด-19
  2. มักจะเที่ยวแบบใกล้ๆระยะทางสั้นๆสามารถขับรถส่วนตัวไปได้จะสามารถลดการสัมผัสกับกลุ่มคนวงกว้างลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้
  3. เที่ยวในสถานที่ Unseen หรือในที่ที่ไม่ค่อยมีคนไปท่องเที่ยวมากนัก คนไม่พลุกพล่าน และสามารถรักษาระยะห่างกันในระหว่างท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย

จากข้อมูลเบื้องต้นเราพอจะสรุปได้ว่า หากนักท่องเที่ยวยุค New normal จะท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุขได้นั้นมักจะเลือกแนวทางการท่องเที่ยวแบบเที่ยวใกล้ๆ ปลอดภัยไว้ก่อน ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 และสิ่งสำคัญของนักท่องเที่ยวยุค New normal นอกจากเรื่องสุขอนามัยแล้วการใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมก็เป็นปัจจัยสำคัญหากคำถึงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ทำอย่างไรจึงจะเป็นนักท่องเที่ยวในแบบ New normal ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

  • ศึกษาข้อมูลทางออนไลน์หรือโทรสอบถามผู้ประสานงานแหล่งท่องเที่ยวให้รอบด้าน
  • ศึกษาเส้นทางที่ปลอดภัยและใกล้ที่สุด เลือกที่เที่ยวใกล้ๆและผู้คนไม่พลุกพล่าน
  • เตรียมให้พร้อมที่จะไม่สร้างภาระกับสิ่งแวดล้อม
    • หลีกเลี่ยงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง พกถุงผ้า แก้วและช้อนส่วนตัว
    • หากใช้รถส่วนตัวก่อนออกเดินทางอย่าลืมเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเช็คลมยาง น้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น และในขณะที่ขับขี่ขับอย่างมีสติ ไม่เบรกบ่อย ใช้ความเร็วเหมาะสมไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    • ขนสัมภาระไปเท่าที่จำเป็นเพื่อไม่ให้รถหนักเกินไปเพราะอาจจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นกว่าเดิม
  • สนับสนุนผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นเน้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แนวออร์แกนิค
  • เลือกที่พักหรือโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือหากอยากใกล้ชิดสัมผัสกับธรรมชาติโดยอาจเลือกที่พักแนว Eco Stay
  • เลือกทำกิจกรรมที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น การปั่นจักรยานเพื่อศึกษาธรรมชาติ,ปั้น ยิง กระสุนเมล็ดพันธุ์เพื่อช่วยปลูกป่า หรือ การเก็บผักออแกนนิกส์ในท้องถื่นมาทำอาหารทานเอง
  • อย่าลืมแชร์หรือบอกต่อประสบการณ์ดีๆเพื่อเป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักท่องเที่ยวอีกหลายๆคนที่จะก้าวไปสู่การท่องเที่ยวแบบ New normal ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ท่องเที่ยวแบบเปิดใจให้กว้าง เข้าใจและตระหนักถึงผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยกันเที่ยวอย่างมีรับผิดชอบช่วยรักษาทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยวให้คงอยู่และหวังว่าธรรมชาติที่สมดุลนั้นจะส่งเสริมให้เกิดสมดุลของสภาพดินฟ้าอากาศ รวมถึงการดูแลสุขอนามัยให้ดีสู่ภาวะของการสร้างสุขภาพที่ดี เพื่อเตรียมรับกับโรคระบาดที่ไม่ใช่แค่โควิด-19 ที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต


ขอบคุณข้อมูลจาก