ชื่อไทย อบเชย (Wild cinnamon)
ชื่อท้องถิ่น เชียด (ทั่วไป) อบเชยต้น (ภาคกลาง) กระแจะโมง กะเชียด กะทังนั้น (ยะลา) กระดังงา (กาญจนบุรี)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cinnamomum iners Reinw. ex Blume
วงศ์ LAURACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลักษณะทั่วไป ไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15 – 20 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดกลม หรือรูปเจดีย์ต่ำๆ ทึบ เปลือกนอกสีน้ำตาลอมเทา เรียบ หรือแตกเป็นสะเก็ดสี่เหลี่ยม มีช่องอากาศกระจายอยู่ทั่วไป เปลือกในสีชมพู กระพี้สีขาว เปลือกและใบมีกลิ่นหอมแบบอบเชย
ลักษณะใบ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม หรือเกือบตรงข้าม รูปขอบขนาน กว้าง 2.5 – 7.5 เซนติเมตร ยาว 7.5 – 25 เซนติเมตร โคนใบมน ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม เนื้อใบหนาแข็งและกรอบ มีเส้นใบออกจากโคนใบ 3 เส้นยาวตลอดจนถึงปลายใบ ใบด้านล่างเป็นคราบขาวๆ ยอดอ่อนมีสีแดง
ลักษณะดอก ช่อแยกแขนง ออกที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยสีเหลืองอ่อน หรือเขียวอ่อน ขนาดเล็ก กลีบเลี้ยง 6 กลีบ เรียง 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ แต่ละกลีบรูปไข่ ปลายแหลม มีขนนุ่มหนาแน่น ไม่มีกลีบดอก ดอกมีกลิ่นเหม็น
ลักษณะผล ผลมีเนื้อเมล็ดเดียวแข็ง รูปไข่กลับ ขนาดเล็ก ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ผิวเกลี้ยงเป็นมัน มีคราบขาว โคนมีกลีบเลี้ยงหุ้มอยู่ ผลอ่อนสีเขียวประขาว เมื่อสุกมีสีดำ เมล็ดรูปไข่
ระยะการออกดอกติดผล
ออกดอกเดือนมกราคม – เดือนเมษายน ติดผลเดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม
เขตการกระจายพันธุ์
พบขึ้นกระจายในป่าดิบทั่วไป ที่ความสูง 400 – 1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล
การใช้ประโยชน์
รากและใบ: ต้มน้ำดื่มแก้อาการปวดหลังปวดเอว น้ำต้มให้สตรีกินหลังคลอดบุตร และลดไข้หลังการผ่าตัด
เนื้อใบ: ใช้ในการแกะสลัก ทำหีบใส่ของป้องกันแมลง เครื่องเรือน ไม้บุผนังที่สวยงาม
เปลือก: มีรสหวานหอม ตากให้แห้งแล้วนำไปเคี้ยวกินกับหมาก ต้มน้ำดื่ม เป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร ใช้เป็นเครื่องปรุงเทศ หรือนำไปทำธูป
ใบ: น้ำยางจากใบใช้ทาแผลถอนพิษของยางน่อง และตำเป็นยาพอกแก้ปวด
เมล็ด: ทุบให้แตกแล้วผสมกับน้ำผึ้ง ให้เด็กกินแก้บิดและแก้ไอ
แหล่งข้อมูล: โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง
[qrcode url=”https://adeq.or.th/qr/0033″ margin=”10″ size=”150″ after=”ต้นอบเชย”]