ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ยาวนานมากว่า 2 ปี ทำให้หลายๆคน เกิดภาวะเครียดจากเศรษฐกิจ เหนื่อยล้าจากการทำงาน เบื่อหน่ายจาก Work From Home หรือแม้กระทั่งร่างกายที่แย่ลงจากมลพิษทางอากาศและอื่นๆอีกหลายปัจจัย ภาวะเหล่านี้ส่งผลกับทางร่างกายและจิตใจของคนเรา ทำให้หลายคนพยายามหาทางออก มองหาวิธีการที่จะช่วยให้อาการหรือความเครียดเหล่านี้ทุเลาลงเพื่อให้สามารถปรับตัวให้อยู่ในสถานการณ์นี้ต่อไปได้
ชมรมสปา&เวลเนสไทย กว่า 20 ชีวิต ที่รวบรวมผู้คนหลากหลายอาชีพ หลากหลายวัยมารวมกันหลายท่านชอบท่องเที่ยวเดินป่า หลายท่านชื่นชอบกลิ่นอายของธรรมชาติ และอีกหลายๆท่านชอบอยู่กับความสงบและผ่อนคลาย ด้วยความชอบและความหลงใหลในธรรมชาติที่เหมือนกันนี้เอง จึงพาให้ทุกท่านเดินทางมาทำความรู้จักกับการใช้ธรรมชาติบำบัดหรือที่เรียกว่า “การอาบป่า”
“อาบป่า” วิธีการจากธรรมชาติที่จะช่วยบำบัดกาย บำบัดจิตใจทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าถึงและเข้าใจธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก่อนที่เราจะเข้าถึงธรรมชาติรอบตัว เรามาทำความรู้จักธรรมชาติใกล้ตัวกันก่อนดีกว่า นั่นก็คือ
ตัวเราเองและเพื่อนรอบข้าง เพราะเราก็คือหนึ่งในสิ่งมีชีวิต เราคือส่วนหนึ่งของธรรมชาติซึ่งทุกชีวิตย่อมมีความแตกต่าง และแต่ละคนก็สามารถสื่อตัวตนออกมาผ่านกิจกรรมโดยอาศัยวัสดุจากธรรมชาติเป็นสื่อกลางได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นผลให้ทุกคนรู้สึกถึงความเชื่อมโยงและเข้าถึงกันและกันได้มากขึ้น
“พาตัวเองมาวางไว้ในธรรมชาติ” กิจกรรมที่ทำให้ทุกท่านรู้สึกไว้วางใจต่อธรรมชาติมากขึ้น โดยการปลดปล่อยความเครียด ความทรงจำ ความเหนื่อยล้า ผ่านภาพวาดที่ล้วนเต็มไปด้วยประสบการณ์จากการสัมผัสกับธรรมชาติที่ฝังอยู่ภายในส่วนลึกภายในใจ อาจจะมีความสุข ความสนุก ความทุกข์และความเศร้า ที่ซ่อนอยู่ภายในรูปภาพนั้นๆ เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนได้ร่วมแลกเปลี่ยนและระบายออกมา เพื่อให้ทุกคนในวงได้รับรู้โดยปราศจากกำแพงแห่งตัวตนมากั้นกลาง และบางช่วงสะท้อนให้เห็นว่าการรับฟังกันและกันนั้นเป็นโอสถแห่งใจชั้นดีที่ช่วยเยียวยาช่วงชีวิตที่เจ็บปวด ในขณะเดียวกันต้นไม้น้อยใหญ่ที่อยู่รายรอบยังเป็นสักขีพยานร่วมรับฟังและช่วยโอบกอดทุกคนในวงอย่างอบอุ่นอีกชั้นหนึ่ง
หลังจากที่ได้ทำกิจกรรม บำบัดจิตใจ บำบัดร่างกายไปแล้ว ถึงเวลาขยับแข้งขยับขากันหน่อย เราพาทุกท่านมาเดินเล่น ผ่อนคลายไปด้วย การเก็บผักเก็บผลไม้ไปด้วย แวะชิม ตะลิงปลิงสดๆจากต้น ให้ความเปรี้ยวเรียกน้ำย่อยก่อนที่มื้อเย็นจะมาถึง เรียกได้ว่าทั้งบรรยากาศและความร่มรื่นทำให้หลายท่านหายเหนื่อยจากการเดินทางเป็นปลิดทิ้ง
“ณ ลานเติมไฟ ไม่ได้มีแค่ มันปิ้ง กล้วยปิ้ง” แต่ยังมีทั้งเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และเรื่องราวที่น่าสนใจ จากการพูดคุยเปิดใจให้กันและกัน เรื่องเล่าจากประสบการณ์ที่เคยพบเจอมาจากหลากหลายอาชีพร่วมแชร์ให้กันฟัง
ศูนย์รวมตะวันขอขอบคุณท่านผู้มาเยือนทุกท่านจากใจ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอ้อมกอดของป่าไม้และขุนเขาที่ศูนย์รวมตะวันจะมอบโอสถทิพย์ที่ใช้เยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจช่วยให้ผู้มาเยือนได้เติมพลังกายแลใจให้พร้อมเพื่อก้าวไปสู่การเผชิญการเปลี่ยนแปลงอย่างเข้มแข็งและเต็มเปี่ยมไปด้วยสายสัมพันธ์อันเน้นเฟ้นของทั้งคณะมากขึ้น โอกาสหน้าทางศูนย์ฯยินดีและพร้อมเปิดบ้านต้อนรับอีกครั้ง