มีคำถามที่น่าสนใจจากเด็กๆที่เข้าร่วมกิจกรรมเดินป่าในระหว่างทางที่ต้องเดินผ่านแนวสายส่งแรงสูง เขาถามพี่เลี้ยงนำเดินป่าว่า “พี่พาผมมาเดินป่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่ผมนั่งเล่นเกมอยู่ที่บ้านครับ” เป็นคำถามที่ฟังผิวเผินแล้วจะดูยียวน แต่เมื่อย้อนกลับมาทบทวนแล้วเป็นคำถามที่น่าสนใจและควรค่าแก่การใคร่ครวญหาคำตอบ

ก่อนอื่นเรามาทบทวนถึงคุณค่าของป่าไม้ที่มีต่อมนุษย์กันก่อน ป่าไม้มอบอากาศอันบริสุทธิ์อุดมไปด้วยออกซิเจนซึ่งถือเป็นผลผลผลิตหลังจากที่ต้นไม้สังเคราะห์ด้วยแสง ป่าไม้เป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดซ์ออกไซด์ลดภาวะโลกร้อน ป่าไม้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารมีไว้ให้เราดื่มและใช้ และประโยชน์อื่นๆอีกมากมายที่สาธยายเป็นวันก็ยังไม่หมด

ถ้าจะใช้ชุดคุณค่าชุดนี้ตอบคำถามกลับไปที่น้องๆก็จะสามารถตอบได้ว่าถ้าไม่มีป่าไม้ น้องๆจะมีออกซิเจนที่ไหนให้หายใจแล้วจะมีชีวิตอยู่เล่นเกมต่อได้อย่างไร หรือถ้าไม่มีป่าไม้ ภาวะโลกร้อนจะรุนแรงขึ้นจนโลกรวนส่งผลกระทบต่อสภาพอาการที่แปรปรวน พอถึงเวลานั้นน้องๆคงไม่มีเวลามานั่งเล่นเกมเพราะต้องคอยวิ่งหนีพายุ หนีน้ำท่วมอยู่ตลอดเวลา

เท่านี้เราก็จะเริ่มมีเรื่องพูดคุยกันต่ออาจมีคำถามเพิ่มเติมว่า “เรานั่งเล่นเกมอยู่บ้านก็ถือว่าไม่ได้มีส่วนทำลายป่าไม้ ใช่ไหมครับพี่” คำถามนี้สะท้อนให้เห็นว่ามุมมองของน้องๆอาจมองเห็นภาพการทำลายป่า คือ การตัดไม้ ไฟไหม้ป่า แต่ที่จริงแล้วหากเรามองให้ลึกไปถึงความเชื่อมโยงเราจะพบว่าในขณะที่นั่งเล่นเกมที่บ้านนั้นเรากำลังใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ และหากเราสมมติตัวเองว่าเป็นอิเลคตรอนเล็กๆที่ย้อนกลับไปจากปลั๊กไฟไปสู่แหล่งกำเนิดไฟฟ้าจะพบว่ามีสิ่งต่างๆที่แสดงให้เห็นว่า “มันขนาดนี้เลยหรอ”

ระหว่างทางที่พี่ๆศูนย์รวมตะวันพาน้องเดินป่าจะมีจุดที่พบแนวสายส่งแรงสูงที่เห็นได้อย่างชัดเจนเป็นแนวทอดยาวผ่านภูเขา หุบเขา จนสุดลูกหูลูกตา พี่ๆมักให้น้องๆสังเกตบริเวณรอบๆใต้สายส่งแรงสูงและความรู้สึกแรกที่ทุกคนรับรู้ได้คือ ร้อนมากที่สุด นั่นก็เพราะว่าบริเวณนั้นไม่มีต้นไม้ใหญ่ที่โตพอจะเป็นร่มเงาได้เลยนี้เอง เราจะพบแต่ผืนหญ้า ลูกไม้เล็กๆ และต้นไม้ที่สูงไม่เกิน 4-5 เมตร  ภาพประจักษ์ต่อสายตาเป็นคำตอบบอกกับเราว่า ใต้แนวสายส่งแรงสูงไม่พบต้นไม้ใหญ่ดูโล่งเปรียบเหมือนกับนักเรียนโดนปัตตาเลี่ยนไถผ่ากลางหัว

เมื่อถึงเวลาพี่ๆเฉลยน้องๆจึงได้รู้ว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าการที่ปล่อยให้ต้นไม้โตไปค้ำสายไฟนั้นอาจเกิดความเสียหายกับสายส่งทำให้การใช้ไฟฟ้ามีปัญหา ทุกๆ 4-5 ปีจึงต้องมีการตัดถางป่าในช่วงวัดออกไปจากฐานเสาไฟฟ้าแรงสูงอย่างต่ำข้างละ 25 เมตร ซึ่งผลกระทบที่ตามมาในแง่ของระบบนิเวศ คือ การตัดส่วนผืนป่าให้ขาดจากกัน นอกจากจะเป็นผลต่อสัตว์ที่หากินบนชั้นเรือนยอดของต้นไม้โดยตรง เช่น ลิง ชะนีที่จำเป็นต้องลงมาบนพื้นดินหากต้องข้ามไปอีกฟากหนึ่งของป่า ย่อมจะเสี่ยงต่อการถูกล่าจากสัตว์ผู้ล่าและผู้คนที่เข้ามาล่าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมายอีกด้วย และหากว่าบริเวณที่สายส่งแรงสูงผ่านตัดผ่านเส้นทางหากินที่สัตว์ใช้ประจำหรือที่มักเรียกว่า ทางด่าน จะส่งผลให้สัตว์ป่าต้องเบี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่สุ่มเสี่ยงต่ออันตรายเนื่องจากไม่ชินเส้นทางใหม่ เช่น อาจผลัดตกลงไปที่น้ำตกหรือหุบสูงชัน ผลกระทบต่างๆที่ไล่เรียงมานั้นเมื่อเชื่อมโยงกลับไปจะพบว่าสายส่งแรงสูงนั้นปลายทางไปจบตรงที่ผู้ใช้ตามบ้านเรือนนั้นเอง ซึ่งตรงนี้พี่ๆจึงได้เชื่อมโยงให้น้องๆเห็นว่า ถึงแม้น้องๆจะนั่งเล่นเกมอยู่ที่บ้าน น้องๆก็มีส่วนในการใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งหากมีการใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นอย่างไม่รู้คุณค่า นั้นก็ย่อมจะส่งผลกระทบต่อผืนป่าดังที่กล่าวมาเช่นกัน ฉะนั้นหากน้องๆจะเปิดสวิสต์หรือเสียบปลั๊กครั้งต่อไปอยากให้นึกถึงเรื่องราวที่พี่ๆเล่าให้ฟัง