ช่วงเวลาก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2564 นี้เราจะต้องใช้ความพร้อมทั้งกายและใจเป็นอย่างมากเพื่อจะฝ่าฝันพ้นวิกฤตใหญ่ที่กลับมาอีกครั้งนั้นคือ การระบาดของโรคโควิด-19ซึ่งก็ไม่สามารถจะคาดการณ์ได้ว่าจะสิ้นสุดตอนไหน สิ่งสำคัญคือการมองย้อนหันกลับมาทบทวนที่ตัวเราว่า เราเลือกกิน อยู่ ใช้เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายต้านโรคได้มากน้อยเพียงใด และที่สำคัญคือ ทัศนคติที่มีต่อการเอาตัวรอดในสภาวะวิกฤตที่ต้องใช้ความรัก ความเข้าใจและความเมตตา ตลอดจนการมองโลกเชิงบวกเป็นการส้รางภูมิคุ้มกันทางใจพาให้เราผ่านพ้นไปจากวิกฤตครั้งนี้ได้ หลายคนในช่วงนี้อาจจะต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตแบบอยู่บ้านเพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม วันนี้สมาคมพัฒนคุณภาพสิ่งแวดล้อมมีสาระดีๆ ที่จะแบ่งปันประสบการณ์แบบการอยู่บ้านอย่างไรให้ปลอดภัยจากโควิด-19และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย
- ใช้ไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่าหรือไม่ ?
- พับหน้าจอหรือตั้งโหมด sleep ช่วงพักยาว เช่น รับประทานอาหารกลางวัน
- เปิดเครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส
- ไม่มีอุปกรณ์ที่มีความชื้น เช่น ตู้ปลา และอุปกรณ์ทำความร้อน เช่น กระติกน้ำร้อนในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ
- ปิดไฟฟ้าแสงสว่างทิ้งไว้ในบริเวณที่ไม่ได้ใช้
- ถอดปลั๊กที่เสียบชาร์จแบตมือถือเมื่อแบตเต็มแล้ว
- ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าหรือไม่ ?
- ปิดน้ำในช่วงเวลาที่เราแปรงฟันหรือล้างมือ
- ลดน้ำต้นไม้ด้วยฝักบัวหรือสปริงเกอร์ที่ใช้ควบคุมการไหลของน้ำได้
- ทำความสะอาดพื้นด้วยการถูไม่ใช้ใช้สายยางฉีดไล่ใส่สกปรก
- เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ เช่น ก๊อกน้ำแบบก้านโยกไม่เกิน 90 องศาและติดตั้งตัวเติมอากาศ (aerator)ที่หัวก๊อก
- จัดการขยะอย่างถูกวิธีหรือไม่ ?
- มีการแยกขยะเป็น ขยะเปียก / ขยะรีไซเคิล / ขยะทั่วไป / ขยะอันตราย ชัดเจน
- มีการจัดที่ทิ้งหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี
- มีถังดักไขมันก่อนปล่อยน้ำออกสู่ลำรางสาธารณะ
- มีการจัดการขยะเปียกอย่างถูกวิธี เช่น นำไปทำปุ๋ยหมักหรือนำไปเป็นอาหารสัตว์
- ใช้ชีวิตเพื่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ?
- เลือกวัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารในท้องถิ่น ใกล้บ้าน
- เลือกพืชผักผลไม้ตามฤดูกาล
- ปลูกผักกินเองปลอดภัยไร้กังวล
- ลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายในบ้าน เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำล้างแทน
ที่นำเสนอเบื้องต้นเป็นแนวทางเบื้องต้นที่เราสามารถจะนำมาปฏิบัติเพื่อให้การอยู่บ้านของเรานั้นนอกจากจะเป็นการรักษาระยะห่างจากชุมชน ลดการติดเชื้อโควิดแล้วยังมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
-ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.freepik.com/