“วันเด็กแห่งชาติ” ปีนี้ ตรงกับวันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 เป็นวันที่ให้ความสำคัญแก่เด็กและเยาวชน ทำให้เราตระหนักในการเลี้ยงดูเด็กและเยาวชน ให้เขาเจริญเติบโตไปในทางที่ดี ซึ่งจะเป็นกำลังหลักสำคัญ ในการพัฒนาประเทศต่อไป สำหรับคำขวัญวันเด็กประจำปี 2565 โดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ “รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม”
ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่มิอาจมองข้ามได้ นั้นก็คือการรับผิดชอบในเรื่องของ “สิ่งแวดล้อม” ซึ่งเป็นสิ่งที่สนับสนุนปัจจัย 4 ที่เราไม่สามารถตัดขาดจาการการดำรงชีวิตปัญได้ และที่สำคัญ คือ ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมนับวันยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากปัญหาที่เราพบเจอในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาโลกร้อน มลพิษทางอากาศ ฝุ่น PM 2.5 น้ำเสีย ปัญหาขยะ และอีกหลายปัญหาที่ถาโถมเข้ามา แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาในปัจจุบันได้ ไม่ใชการใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด หรือการใช้กฎหมายที่เข้มงวดที่สุด แต่เกิดจากการตระหนักรู้ว่าเราคือส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ และจะทำยังไงให้เราอยู่กับโลกใบนี้อย่างมีความสุขไปอีกนานๆ ซึ่งแนวคิดนี้ได้เริ่มเกิดกับเยาวชนบางกลุ่มแล้ว แต่ทว่าเขายังไม่มีพื้นที่บอกให้คนรู้ว่า “หัวใจสีเขียว” มันดียังไง แล้วเวลาที่ลงตัวก็มาตรงกับวันเด็กพอดี ในฐานะที่เราหัวใจสีเขียวตรงกัน สมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
จึงมีการจัดเวทีขึ้น เพื่อนำเสนอกระบอกเสียงเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนโลกใบนี้ให้น่าอยู่ได้ กับเวที “ชวนน้องล้อมวง สิ่งแวดล้อมในคน Gen Z” เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 โดยเป็นการพูดคุยผ่านช่องทางออนไลน์ โดยตัวแทนเยาวชนทั้ง 4 ที่มีความรัก และเข้าใจสิ่งแวดล้อมในแต่ละประเด็น ทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และพลังงาน การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สุงสุด
- เด็กชายภูมิ ต้นศิริมาศ(น้องภูมิ) เยาวชนต้นแบบการจัดการขยะรุ่นจิ๋ว
โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง - นางสาวกรกนก คงสุวรรณ (น้องไอซ์) สมาชิกกลุ่ม Green Gang แกนนำอนุรักษ์พลังงานโรงเรียน โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน
- นางสาวจุฑามาศ ขันธะนามศรี (น้องนัน) ประธานนักเรียน ตัวแทนนักเรียนที่เห็นความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน
- นางสาวมินตรา มาลัย(น้องแบม) นักศึกษานิเทศก์ต้นแบบ เยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
จากการพูดคุยกับน้อง ๆ ทำให้เรารับรู้ว่า ความเข้าใจ และตระหนักมีความสำคัญมากกว่าความรู้ เปรียบแล้วก็เหมือน “เรารู้กฎหมาย แต่บางครั้งเราก็ไม่ทำตาม หรือหาข้อหลีกเลี่ยงให้ตัวเองพ้นความผิด แต่ถ้าเราเกิดความตระหนัก เราอาจจะไม่ต้องมีกฎหมายมากำหนด แค่เราเข้าใจ และเห็นอกเห็นใจเพื่อส่วนรวม เพียงเท่านี้สังคมมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม ก็น่าอยู่แล้ว” เราไปดูกันดีกว่า ว่านักสิ่งแวดล้อมตัวน้อย เขาคิดยังไงกับสิ่งแวดล้อมในมุมมองเขา
เด็กชายภูมิ ต้นศิริมาศ(น้องภูมิ)
“ตอนนี้ที่ผมกำลังทำอยู่คือการลดขยะในบ้านครับ เมื่อก่อนผมมีโปรเจค Home school เรียกว่า Mission to green แรงบันดาลใจในรอบแรกผมก็มีเพราะผมเจอข้อมูลในหนังสือจาก Story of stuff (เรื่องเล่าของข้าวของ) ผมก็เลยรู้ว่าขยะที่เราสร้าง มันไปไหน แล้วเกิดผลอะไรกับสิ่งแวดล้อม หลังจากนั้นเราก็ไปเจอข้อมูลเพิ่มแล้วผมก็ตระหนักว่า มันเป็นสิ่งที่อันตราย ถ้าเราไม่จัดการขยะมันก็จะไปอยู่ในสิ่งแวดล้อม และพอมันอยู่ในสิ่งแวดล้อม มันก็จะวนกลับมาหาเราอยู่ดีครับ”
นางสาวกรกนก คงสุวรรณ (น้องไอซ์)
“หนูเคยเข้าร่วมค่ายเกี่ยวกับอนุรักษ์พลังงาน สอดแทรกเรื่องเกี่ยวการผลิตไฟฟ้าจากธรรมชาติ เลย เกิดมุมมองว่าเราจะประหยัดพลังงานยังไง โดยหนูสร้างแรงจูงใจโดยใช้การสร้างความตระหนัก เช่น ถ้าวันนี้เราลืมปิดน้ำ แล้วถ้าวันหนึ่งโรงเรียนไม่มีน้ำใช้ เราจะอยู่กันอย่างไร เดินผ่านแบบ ล้างมือเสร็จ เปิดทิ้งเลย ถ้าวันหนึ่งไม่มีน้ำเราจะอยู่กันอย่างวไร จะใช้ชีวิตกันยังไง ถ้าวันหนึ่งเราไม่มีไฟ เราจะอยู่กันยังไง ตอนนี้ หนูรู้สึกภูมิใจน่ะค่ะ เราจะเซฟพลังงานที่เรายังต้องพึงพามันไปอีกนาน เราเซฟมัน เพื่อให้เราอยู่กับมันไปได้ยาวขึ้น”
นางสาวจุฑามาศ ขันธะนามศรี (น้องนัน)
“สำหรับการเป็นประธานนักเรียน กับสิ่งแวดล้อมของโรงเรียนมันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ ส่วนมากมันจะคิดเป็นโครงการขึ้นมามากกว่าค่ะ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องสามารถต่อยอดไปถึงรุ่นน้องของเราต่อได้ด้วย และเราได้จัดตั้งโครงการขึ้น โดยตอนนั้นเราไปเล็งเห็นถึงปัญหาของขยะ คือไวนิล ที่มันเป็นป้าย เวลามันหมดช่วงเวลาโรงเรียนไม่ได้ใช้แล้ว ก็จะทิ้งมันเลยใช้ไหมค่ะ ก็เลยไม่มีโอกาสได้นำมาใช้ต่อ ก็เลยปรึกษากันว่าเราจะเอาไวนิลบตรงนนี้มาเพิ่มมูลค่าให้มันมากขึ้น เอามาทำเป็นกระเป๋า ที่ตอบโจทย์เพื่อรณรงค์ให้คนเลิกใช้ถุงพลาสติก”
นางสาวมินตรา มาลัย(น้องแบม)
“มันเกิดจากการไปค่ายที่ ศูนย์รวมตะวัน พี่เขาให้ระดมความคิด ว่าเราสนใจเรื่องไหน ให้แลกเปลี่ยนความรู้กัน เลยเสนอพื้นที่สีเขียว ให้เด็กนั้นมีต้นไม้คนละหนึ่งต้นของทุกห้อง ถ้าเรามีพื้นที่ว่าง เราอยากให้ช่วยกันปลูกให้มันโตเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวในโรงเรียน และตอนนี้ก็เอามาต่อยอดที่บ้าน โดยการปลูกต้นไม้ บนชั้นดาดฟ้าของบ้านเลย เหมือนสวนลอยฟ้าบนคอนโดเลยค่ะ และที่จริงก่อนไปค่ายโรงเรียนก็จะมีชุมนุมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ส่วนตัวเราแค่สนใจอย่างนี้อย่างเดียว ใครจะยังไงไม่รู้ หนูสนใจแค่สิ่งแวดล้อมอย่างเดียว”
จะเห็นได้ว่าทั้ง 4 คน มีมุมมองที่แตกต่างกัน แต่ความแตกต่างคือปัจจัยสำคัญอันจะนำไปสู่ความยั่งยืนได้ เหมือนกับระบบนิเวศจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ ต้องมีหลาย ๆ สิ่งมาร่วมกัน เกิดความหลากหลายทางชีวภาพที่ทำให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยืนยาวต่อไปได้ และเราก็ปิดท้ายด้วยกัน ฟังคำขวัญวันเด็ก จากเยาวชนหัวใจสีเขียว ที่ขอฝากข้อคิดให้กับผู้อ่านทุกท่าน
เด็กชายภูมิ ต้นศิริมาศ(น้องภูมิ)
“ลองเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย และลองดูว่าคุณจะทำอะไรได้บ้าง”
นางสาวกรกนก คงสุวรรณ (น้องไอซ์)
“รักตัวเอง รักษ์โลก ร่วมกันสร้างพื้นที่สีเขียว”
นางสาวจุฑามาศ ขันธะนามศรี (น้องนัน)
“รู้จักใช้ รู้จักรักษา เมื่อธรรมชาติสร้างมาให้เราใช้สอย”
นางสาวมินตรา มาลัย(น้องแบม)
“สิ่งแวดล้อมจะสดใส ถ้าใส่ใจและดูแล”
คำขวัญที่เกิดจากคนตัวเล็ก นำสู่การเปลี่ยนแปลงโลกได้ สุดท้ายนี้เรา ขอฝากความฝันของเด็กเหล่านี้ ให้ “ผู้ใหญ่ใจดีที่มีกำลังทางสติปัญญา และบารมี” เปลี่ยนโลกใบนี้เพื่อลูกหลานของเราในวันข้างหน้า
เด็กชายภูมิ ต้นศิริมาศ(น้องภูมิ)
“ภาพฝันของผมก็น่าจะเป็น มีโลกที่สะอาด ที่จะอยู่ได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องห่วงเรื่อง ความสกปรกของสิ่งต่าง ๆ อยากเป็นโลกที่ มีอากาศที่สะอาด มีสิ่งแวดล้อมที่สดชื่นครับ สำหรับคอบครัวผม หรือตอนผมโต”
นางสาวกรกนก คงสุวรรณ (น้องไอซ์)
“ อยากให้แม่น้ำ คู คลอง หรือแม่น้ำเจ้าพระยา มีขยะน้อยลง หรือไม่มีมันเลย ให้มันสะอาดตา และเวลาเราสัญจรทางน้ำไปมา ไม่มีน้ำเสีย เราใช้ประโยชน์จากน้ำ เช่นรดน้ำต้นไม้ได้ เหมือนคนสมัยก่อน เป็นไปได้ไม่อยากให้มีการลดขยะต้นทางให้น้อยที่สุด”
นางสาวจุฑามาศ ขันธะนามศรี (น้องนัน)
“ภาพฝันของหนูตอนนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ทำอยู่ ก็อยากเห็นว่าทุกพื้นที่ เช่น เกาะกลางถนน สองข้างทางของถนน เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียว มีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น มีพื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้น”
นางสาวมินตรา มาลัย(น้องแบม)
“ภาพฝันของหนู หนูอยากให้ทุกที่ มีต้นไม้ แล้วเมื่อเราตัดทรัพยากรตรงนั้นไปแล้ว หนูอยากให้ทุกคนใช้ทรัพยากรตรงนั้นให้คุ้มค่าที่สุด และก็อย่าลืมที่จะทดแทนมันขึ้นมาด้วย รักษามันด้วยเมื่อใช้แล้ว ธรรมชาติมันสร้างมาให้เราใช้ แต่เราก็ต้องรู้จักที่จะรักาหรือทดแทนมันกลับค่ะ”
“อยากทิ้งมรดกอะไรไว้ ให้ลูกหลานบ้าง ระหว่าง โลกที่น่าอยู่กับทรัพยากรที่สมบูรณ์ หรือ โลกที่เสื่อมโทรมที่เต็มไปด้วยมลพิษที่เป็นยาพิษทำให้อายุสั้นลง”
สามารถเข้าชมคลิปวีดีโอฉบับเต็มได้ที่ https://fb.watch/au11YZYIuF/